9 อาหารริมทาง จานเด็ด จากรอบโลก ไปแล้วห้ามพลาด!!
ทุกคนอาจจะคุ้นชินกับอาหารริมทาง ที่มีให้เห็นทุกซอกทุกมุมในประเทศไทย ทั้งสะดวก และราคาไม่แพง แถมบางร้านก็ยังอร่อยกว่าร้านอาหารหรูๆ แพงๆ ซะอีก แต่เคยสงสัยกันมั้ยว่า “แล้วอาหารริมทางของประเทศอื่นล่ะ?”วันนี้เราจึงจะนำ street foodเด็ดๆ จากรอบโลกมาฝากกัน เผื่อใครมีโอกาสได้เที่ยวตามที่ต่อไปนี้ ก็ไปลองดูได้เลยนะ
1. Mohinga – เมียนมาร์
พูดง่ายๆ ก็คือ ก๋วยเตี๋ยวคล้ายบ้านเรานี่แหละ เพียงแต่น้ำซุปของเค้าเป็นน้ำซุปปลารสชาตินุ่มลิ้น ที่เผลอๆจะมีเกล็ดปลาผสมมาด้วย (ส่วนใหญ่จะใช้ปลาช่อน) มีเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า มองเผินๆ เหมือนเส้นขนมจีนของไทยเรา ใส่หอมซอย บางครั้งก็มีหยวกกล้วยด้วย นอกจากนี้ยังใช้ขมิ้น และสมุนไพรอย่างตะไคร้เพิ่มกลิ่นรสให้เย้ายวนชวนลิ้มลองรส มีขายในทุกเมืองของพม่า และเป็นที่นิยมมากถึงขั้นมีการสั่งซื้อออนไลน์ได้ด้วย
2. Banh mi – เวียดนาม
ความลับที่รู้กันน้อยนัก แซนวิชที่ดีที่สุดของโลกไม่ได้พบในกรุงโรม, โคเปนเฮเกน หรือแม้กระทั่งนิวยอร์กหรอกนะ หากแต่มันอยู่ตามท้องถนนของเพื่อนบ้านเราอย่าง เวียดนาม นี่เอง ขนมปังฝรั่งเศสราดมายองเนส ยัดไส้ด้วยเนื้อสัตว์ ผักดอง และสมุนไพรสด หยดน้ำซีอิ๊ว และเครื่องปรุงรสเผ็ดสักนิด เป็นได้ติดอกติดใจ เมนู Banh mi (บั๋นหมี่) นี้ได้อิทธิพลมาจากฝรั่งเศสเมื่อครั้งที่ยึดครองเวียดนามไว้ใต้อาณัติ หากมีโอกาสไปเดินกินลมชมวิวบนท้องถนนเวียดนามล่ะก็ อย่าพลาด 10อาหารเวียดนาม จานเด็ดต้องโดนด้วยนะ
3. Daulat ki chaat – นิวเดลี อินเดีย
ขนมหวานแสนชื่นใจ เมื่อสัมผัสลิ้นแล้วจะรู้สึกถึงรสชาติของนม น้ำตาล สำหรับสีเหลืองอ่อนๆ ที่โรยหน้านั้นทำมาจากเมล็ดถั่วพิสตาชิโอ ส่วนมากนิยมกินกันในฤดูหนาว เนื่องจากมันจะละลายได้ง่ายในอุณหภูมิสูงๆ
4. ราเมง – ญี่ปุ่น
ไปญี่ปุ่น ถ้าไม่ได้กินราเมงถ้วยโตๆ อย่าบอกเชียวนะว่าไปญี่ปุ่นมาแล้ว หาร้านหม่ำง่ายมากๆ มีตั้งแต่ร้านรถเข็นข้างทาง ไปจนถึงร้านดังมีพ่อครัวระดับแชมป์ปรุงรสให้เลยล่ะ เสน่ห์ของราเมงญี่ปุ่นนอกจากน้ำซุปรสชาตินุ่มนวลแล้ว ปริมาณเต็มเม็ดเต็มถ้วยใหญ่ๆ อย่างนี้แหละ กินทีอิ่มยาวทั้งวัน ยิ่งถ้าเป็นร้านเจ้าดังล่ะก็ ต้องซดน้ำไม่ให้เหลือสักหยด
5. Burek – บอสเนีย-เฮร์เซโกวีเนีย
ขนมปังอบ กรอบ หอมกรุ่น ไส้ข้างในอัดแน่นไปด้วยเนื้อสับ หอม และผักโขม ผสมกับชีส เนยหรือน้ำมันมะกอก อบจนสีเหลืองนวล เสิร์ฟพร้อมกาแฟหรือชาดำในยามเช้า Burek มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศตุรกี สามารถรับประทานได้ทั้งร้อน และเย็น
6. Sfenj – โมร็อกโก
มันก็คือครัวซองต์ของฝรั่งเศสนั่นเอง เพียงแต่ทำเป็นรูปทรงกลม มีรูตรงกลางคล้ายโดนัท เชื่อกันว่านำเข้ามาเผยแพร่โดยชาวอาหรับในศตวรรษที่ 18ทำจากแป้งใส่ยีสต์ นม จะรับประทานในมื้อเช้า หรือเป็นของว่างในยามบ่ายก็ได้
7. Tamales – เม็กซิโก
จะเป็นอาหารเช้าก็ได้ หรือจัดมาเป็นอาหารว่างก็ดี เรียกว่าเป็นอาหารง่ายๆ สบายๆ ผสมผสานระหว่างรสหวาน และเผ็ด คลุกเคล้ากันด้วยเนื้อไก่ เห็ด พริก ชีส ข้าวโพด แล้วห่อด้วยเปลือกข้าวโพด หรือบางทีก็ใช้ใบตอง นำไปนึ่งจนสุกจะนุ่มลิ้นมากๆ Tamales มีถิ่นที่มาจากอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ อีกทั้งถือว่าเป็นเมนคอร์สของชนเผ่าอินคาเค้าล่ะ
8. Red red – กานา
เมนูแดงแดงของชาวกาน่า ทั้งร้อน หวาน และเผ็ด มันคือถั่วแดงผัดกับกล้วยหักมุก และโซมี่ (น้ำมันปาล์มแดง) ส่วนสิ่งที่ทำเป็นสีแดงก็คือ หัวหอม และพริกแดงที่ผัดลงไปในโซมี่ พร้อมกับเพิ่มถั่วดำเข้าไป เติมเกลือเพิ่มรสชาติอีกนิดนึง เท่านี้ชาวกานาก็พร้อมนำเสนอแล้ว หากคุณไปเดินเล่นเก็บประสบการณ์ชีวิตในถิ่นกานาล่ะก็ คุณจะได้ยินเสียงร้องเรียกเชิญให้ลองชิมตามริมข้างทางแน่นอน
9. Currywurst – เยอรมนี
ไส้กรอกราดซอสมะเขือเทศ กินกับมันฝรั่งทอด หรือจะเป็นขนมปังก็ได้ เมนูธรรมดาๆ ที่หากินได้ทั่วไปในเยอรมัน แต่มีประวัติมายาวนาน เริ่มมีครั้งแรกเมื่อปี 1949 ที่เบอร์ลินโดยผู้หญิงนามว่า Herta Heuwer เธอนำเจ้าซอสเซจหรือไส้กรอกมาบากแล้วย่าง ราดด้วยซอสมะเขือเทศลงไป วางขายบนแผงท่ามกลางซากปรักหักพัง (ซึ่งเป็นผลมาจากสงครามเป็นแน่แท้) ซึ่งเจ้า Currywurst เป็นเมนูยอดฮิตสำหรับพวกก่อสร้าง และผู้ใช้แรงงานในสมัยนั้นมากๆ