![ข้อมูลท่องเที่ยว ข้อมูลท่องเที่ยว](https://www.hilightworldtour.com/img/title-travel.jpg)
![เยือนคุก ตวลสแลง ย้อนรอยความโหดเหี้ยมในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ เยือนคุก ตวลสแลง ย้อนรอยความโหดเหี้ยมในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ](https://www.tourxpresscenter.com/backend/images/ContentPhoto/vgfUpcGj0709201910062209.jpg)
เยือนคุก ตวลสเลง ย้อนรอยความโหดเหี้ยมในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมันได้สร้างค่ายกักขังนำชาวยิวมากระทำทารุณกรรมและสังหารหมู่อันสุดแสนสยดสยองจนโด่งดังรู้กันทั่วโลก หลายคนคิดว่าพฤติกรรมโหดเยี่ยงนี้คงหมดไปแล้วจากโลกมนุษย์แต่ทว่าเพียงอีกไม่กี่สิบปีหลังจากนั้นก็ได้เกิดเหตุการณ์คล้ายกันขึ้น คราวนี้เกิดในทวีปเอเชียติดกับประเทศไทยของเราเอง นั่นคือ ในประเทศเขมรหรือกัมพูชา! เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เริ่มต้นขึ้นในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๑๘ อันเป็นวันที่เขมรแดงภายใต้การนำของ “พอลพต” เข้ายึดครองกรุงพนมเปญของกัมพูชาได้สำเร็จ
ค่ายกักกัน “ตวนสเลง” (Tuol Sleng Genocide Museum)
![ตวนสเลง](https://i.imgur.com/W7P5Z7a.jpg)
ค่ายกักกัน “ตวนสเลง” ที่บัดนี้ กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความทรงจำอันโหดร้ายในอดีต ครั้งนั้นความหายนะของประเทศเขมรนั้นได้มีตำนานทายทักไว้แต่โบราณกาลว่า
"เมื่อถึงกษัตริย์องค์ที่ ๑๔ ราชบัลลังก์จะถึงวาระสิ้นสุด
โดยจะมีเหล่าปีศาจที่มาในร่างกาดำบินว่อนเต็มท้องฟ้า
จนบังแสงสุริยาไม่ให้ส่องถึงพื้นแผ่นดิน
พร้อมกับคาบผลไม้เน่าๆสีแดงมาทิ้ง
เสมือนเลือดที่จะนองแผ่นดิน ก็ปานนั้น"
พอลพต ผู้นำเขมรแดง และ ค่ายกักกัน "ตวลเสลง"
![ผู้นำเขมรแดง](https://i.imgur.com/86PJQTh.jpg)
เมื่อเขมรแดงเข้าครอบครองกัมพูชา นโยบายแรกที่นำมาใช้ก็คือ กำจัดบุคคลผู้มีฐานะและความรู้ ไม่ว่าจะเป็นทหารฝ่ายตรงกันข้าม ครูอาจารย์ วิศวกร พ่อค้า คหบดี ฯลฯ โดยเนรเทศไปให้หมดจากกรุงพนมเปญ แล้วนำไปสังหารหมู่ล้างเผ่าพันธุ์ ดังที่โลกรู้จักในชื่อ “ทุ่งสังหาร” หรือ (Killing Fields) ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เหยื่อส่วนที่เหลือก็ถูกนำไปกักและกระทำทารุณกรรมเหมือนมิใช่มนุษย์ผู้ยังมีจิตและวิญญาณ ดังเช่นในค่ายกักกัน “ตวลสเลง” ผู้ถูกกักขังใน “ตวลสเลง” นอกจากชาวเขมรระดับชนชั้นในสังคมดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีเชลยต่างประเทศอีกมากมาย ทั้งชาวเวียดนาม ไทย ลาว อินเดีย ปากีสถาน อังกฤษ อเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ฯลฯ
ทุ่งสังหาร
![ทุ่งสังหาร](https://i.imgur.com/Q4EJYuA.jpg)
ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เชลยบางคนเป็นถึงรัฐมนตรีหรือทูตต่างประเทศ รวมประมาณ ๑๕,๐๐๐ คน แต่ตัวเลขแท้จริงเป็นเท่าใดนั้น ไม่มีใครทราบ เนื่องจากเขมรแดงนั้นปกปิดการสื่อสารทั้งปวง นักข่าวไม่อาจเข้าประเทศกัมพูชาช่วงนั้นได้ สิ่งที่ได้รู้กันนั้น ล้วนมาจากปากคำผู้ลี้ภัยเท่านั้น เมื่อดัดแปลงเป็นค่ายกักกันแล้ว เขมรแดงก็ตั้งชื่อว่า “สำนักงานความมั่นคง” โดยใช้อักษรย่อว่า “เอส-21” แล้วนำเอาบุคคลที่เห็นว่าเป็นศัตรู หรือเป็นกบฏต่อรัฐบาลมาคุมขัง เพื่อทำการรีดเค้นให้ยอมสารภาพความผิดด้วยวิธีการทารุณทุกรูปแบบ เมื่อเหยื่อทนไม่ไหวและสารภาพ ก็จะถูกนำตัวไปฆ่าหมดสิ้น ตลอด ๔-๕ ปี ในช่วงที่เขมรแดงกุมอำนาจ ค่าย “ตวลสเลง” จัดเป็นสถานแห่งความทารุณโหดร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทุกคนที่เข้ามาในค่ายนี้ท้ายที่สุดก็ต้องถูกสังหาร แต่ก่อนการสังหารนั้น เขาจะถูกทรมานอย่างแสนสาหัสเสียก่อน ด้วยความเหี้ยมเกรียม แข็งกร้าว
ไร้วี่แววแห่งมนุษยธรรมโดยสิ้นเชิง น่าอัปยศอดสูเป็นยิ่งนัก เมื่อถูกจับและส่งตัวมายัง เอส-21 ทุกคน ไม่ว่าคนเดียวหรือทั้งครอบครัว จะถูกถ่ายรูปและสอบประวัติไว้อย่างละเอียด จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดประจำของค่าย แล้วในไปกักขังในห้องเรียน ห้องหนึ่งๆ จะนอนกันยัดเยียดกันบนพื้นราว ๕๐-๖๐ คน โดยนอนสลับหัว-ท้ายติดๆกัน เหล่าเชลยจะถูกบังคับให้ต้องปฏิบัติตนภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดและเด็ดขาด ๑๐ ข้อด้วยกัน อาทิ
กฎระเบียบที่เข้มงวดและเด็ดขาด ๑๐ ข้อ
![กฎระเบียบที่เข้มงวดและเด็ดขาด ๑๐ ข้อ](https://i.imgur.com/fq1WpZa.jpg)
พร้อมกับปิดแผล ตะขาบจะวิ่งพล่านอยู่ภายในตัวเชลย เป็นที่น่าหวาดเสียวสุดสยองยิ่ง เชลยที่ถูกตัดสินประหารอาจโดนแขวนคอราวกับห้อยโหนยิมนาสติกของนักเรียนกลางสนามหญ้า กล่าวกันว่าช่วงที่เขมรแดงกระทำทารุณกรรมนั้น ชาวกัมพูชาเสียชีวิตไปถึง ๑.๗ ล้านคน ทั้งจากการถูกสังหาร ถูกทรมาน ความอดอยาก การถูกใช้ให้ทำงานลำบากตรากตรำตลอดจนโรคภัยไข้เจ็บ เคราะห์กรรมของชาวกัมพูชาจากน้ำมือของเขมรแดง จบสิ้นลงในต้นปี พ.ศ.๒๕๒๑ เมื่อกองทัพเวียดนาม ยาตราเข้ามาขับไล่กลุ่มเขมรแดงออกจากพนมเปญไป พอลพต ผู้นำเขมรแดงจบชีวิตอย่างสงบที่บ้านพักปี พ.ศ.๒๕๔๑ นายเขียว สำพัน หนึ่งในขบวนการ กำลังถูกพิจารณาคดี ส่วนผู้บงการเขมรแดงคนอื่นๆ ก็ถูกองค์การสหประชาชาติ ดำเนินการนำตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาโทษ
เรือนจำตวลสเลง1975-1979
![เรือนจำตวลสเลง1975-1979](https://i.imgur.com/1Gd1wND.jpg)
เขมรแดงดัดแปลงจากโรงเรียนมัธยมในกรุงพนมเปญมาทำเป็นคุก มีผู้ถูกจองจำในคุกแห่งนี้จำนวน ๑๗,๐๐๐ คน - ๒๐,๐๐๐ คน
หรืออาจมากกว่านั้น และมีผู้ที่รอดชีวิตออกมาเท่าที่ตรวจสอบได้เพียง ๑๒ คน